มนุษย์เราหากได้ทำงานในสิ่งที่รักถือเป็นความโชคดีและมีความสุข เพราะมีหลายๆคนที่ชอบอย่างหนึ่งแต่ต้องมาทำอีกอย่างหนึ่ง แต่เธอคนนี้ นุ่น – สาครพรรณ ภูรินิตย์ เจาของ The Artists The Inspiration of Dance โรงเรียนสอนเต้นครบวงจรย่านบางนา เพราะความโชคดีที่ได้ทำในสิ่งที่เธอหลงรักมาตั้งแต่เด็กๆ เธอเล่าว่าเธอชอบบัลเล่ต์และขอคุณแม่ไปเรียนตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มาจากประเทศอังกฤษ ตอนเด็กเรียนเฉพาะวันเสาร์-วันอาทิตย์ พอจบชั้นประถมก็เริ่มเรียนอย่างจริงจังสัปดาห์ละ 4 วัน เรียนมาเรื่อยไม่เคยขาดจนกระทั่งจบมัธยมศึกษาก็เริ่มเป็นผู้ช่วยสอน
เรียนรู้ให้ถึงแก่น…
จนกระทั่งเข้าเรียนที่คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เริ่มสอนอย่างจริงจัง คือวันหยุดก็ไปสอนบัลเล่ต์ตอนจบปริญญาตรีไปทำงานที่ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่อยู่ปีกว่า วันธรรมดาทำงานออฟฟิศไป วันเสาร์ – อาทิตย์ก็ไปสอนบัลเล่ต์ ทำงานได้ปีกว่าก็ไปเรียนต่อด้านบริหารการตลาดที่ประเทศอังกฤษ ก็ไปเข้าคอร์สเรียนบัลเล่ต์ เพิ่มเติมควบคู่ไปด้วยตลอด 1 ปี หลังจากนั้นเธอก็ไปเข้าคอร์สเรียนการเต้นอย่างครบวงจรที่ประเทศออสเตรเลียอีกหลายครั้ง เรียกว่าเป้าหมายชัดเจนจริงๆ ว่าเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
พอจบปริญญาโทกลับมาเธอก็ทำงานด้านการตลาดที่บริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่งอยู่ 2-3 ปี ควบคู่ไปกับการสอนบัลเล่ต์ช่วงวันหยุด นับจนถึงวันนี้เธอก็สอนบัลเล่ต์มา 10 กว่าปีแล้ว หากว่ามีคอร์สอะไรเกี่ยวกับการเต้นใหม่ๆ เธอก็จะไปเรียนเพื่อเป็นการอัพเดทเสมอ เธอเล่าว่า มันเป็นความรักความหลงใหลไม่มีวันไหนในชีวิตที่จะห่างไกลการเต้น และฝันว่าวันหนึ่งเธอจะหันมาทุ่มเทให้กับเรื่องการสอนการเต้นของเธออย่างจริงจัง ที่ผ่านมาขอสั่งสมประสบการณ์ทุกอย่างให้รอบด้านเสียก่อน เรียนให้แน่นให้ถ่องแท้รู้จริง ลองไปทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ เพื่อให้รู้ระบบการทำงานของเขาเพื่อที่ว่าสักวันหนึ่งเธอจะปลุกปั้นธุรกิจนี้เป็นของตัวเอง
ถึงเวลาต่อยอดสิ่งที่รักเป็นธุรกิจ…
หลังจากที่เรียนบัลเล่ต์มาแต่เล็กแต่น้อยจนกระทั่งไปเรียนเพื่อมาเป็นครูสอน ไปเรียนเพื่อมาเปิดธุรกิจเป็นของตนเอง ใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์มา 20 กว่าปี ถึงเวลาที่เธอจะเปิดโรงเรียนสอนบัลเล่ต์เป็นของตัวเอง ภายใต้ชื่อ The Artists The Inspiration of Dance ซึ่งเปิดมาได้เพียง 1 ปีเศษๆ เป็นโรงเรียนสอนเต้นครบวงจร และยังมีคลาสสอนโยคะเพิ่มมาอีกด้วย เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองที่พาลูกมาเรียนได้มีคลาสดีๆ เรียนระหว่างรอลูกๆ “บางทีพ่อแม่มาส่งลูกเรียน 2 ชั่วโมง ก็ไม่รู้จะไปไหน เบื่อช็อปปิ้ง ก็มาเรียนโยคะสักชั่วโมงก็ได้ เรามีโยคะสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการยืดเส้นยืดสายเพื่อดูแลสุขภาพ หรือถ้าผู้ปกครองอยากเรียนเต้นเพื่อการออกกำลังกายก็ได้เหมือนกัน เพราะเราสอนครบวงจรตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงวัย 60 ปี ผู้ใหญ่ก็เรียนได้ค่ะ เรียนเพื่อปรับบุคลิกภาพ เพื่อสมาธิ เพื่อการออกกำลังกาย เราสอนครบวงจรทังเต้นบัลเล่ต์, แจ๊ส, ฮิปฮอป, สตรีทแดนซ์, Free Class, การเต้นรำเพื่อเข้าสังคม, โยคะ” เธอกล่าวอย่างตั้งใจ
ทำในสิ่งที่รัก รักในสิ่งที่ทำ…
มีคนถามว่าเปิดร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า อะไรที่เกี่ยวกับผู้หญิง ความสวยความงาม จะเหมาะกว่าไหม เธอตอบว่าโอกาสของสิ่งเหล่านั้นน่าจะเติบโตได้ง่ายกว่า ทำกำไรได้ดีกว่า แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอรัก เธออยากทำงานที่เธอรักและมีความสุขกับมันจริงๆ เพราะมันเป็นชีวิตของเธอถึงจะเป็นธุรกิจที่จุกจิกยุ่งยาก ซับซ้อนมากกว่าแต่เธอก็รักที่จะทำ จะได้เงินน้อยหรือเงินมากไม่ใช่ประเด็นหลักสำหรับเธอ การได้ทำงานที่มีคุณภาพ มีความสุข ให้ประโยชน์กับคนอื่น และเลี้ยงตัวเองได้ไม่ขาดทุน นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอพอใจเป็นอย่างยิ่งแล้ว
การเต้นมีดีกว่าที่คิด…
เธอบอกว่า การเรียนเต้นในเด็กเพื่อฝึกความยืดหยุ่นในร่างกาย สร้างกล้ามเนื้อและการทรงตัว สร้างสมาธิความทรงจำ มีวินัย ให้เด็กกล้าแสดงออก สำหรับในวัยผู้ใหญ่จะช่วยเสริมบุคลิกภาพ กล้าแสดงออก เข้าสังคมเป็นถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถคลายเครียดได้ เพราะอยู่กับดนตรี เสียงเพลง คนที่สมาธิสั้นสามารถช่วยได้ ที่ต่างประเทศมีผลวิจัยสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้
ด้านหลักสูตรการเรียนการสอนการเต้นบัลเล่ต์และแจ๊สนั้น ที่นิยมใช้กันมี 2 หลักสูตร จาก 2 ประเทศ คือ จากประเทศอังกฤษเป็นหลักสูตรที่ใช้กันมาเนิ่นนาน และหลักสูตรจากประเทศออสเตรเลีย ตอนเธอเด็กๆ ก็เรียนหลักสูตรของประเทศอังกฤษมาโดยตลอด เมื่อจบปริญญาตรีเธอก็เริ่มไปเรียนหลักสูตรจากประเทศออสเตรเลียดูบ้าง และเธอก็ค้นพบว่าหลักสูตรจากประเทศออสเตรเลียนั้นเป็นหลักสูตรที่มีความยืดหยุ่นกับผู้เรียน คนที่มีอายุเท่าไหร่ก็สามารถเรียนได้ วัยที่เหมาะในการเรียนบัลเล่ต์ที่ดีที่สุด คือ อายุระหว่าง 3.5-6 ขวบ แต่ถ้าเรียนเพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพ ให้เดินสวยงาม หลังตรง อายุ 40 กว่ามาเรียนก็ไม่สายเกินไป
สาครพรรณ บอกว่า ตอนนี้ที่บ้านเราจะเริ่มใช้หลักสูตรของออสเตรเลียกันเยอะขึ้น ที่เดอะอาร์ทติสก็เช่นกัน มีการโคหลักสูตรกัน โดยทุกปีจะจัดให้มีการสอบเพื่อรับ Certificate จากสถาบัน ADA โดยตรง ในประเทศไทยมีประมาณ 3-4 รายที่ได้รับอนุญาตให้ใช้หลักสูตรนี้ได้ และที่นี่มีการร่วมมือ หากเด็กๆอยากจะไปเรียนกับเจ้าของหลักสูตรที่ออสเตรเลียเราก็มีการแลกเปลี่ยนให้ข้อแนะนำ ส่งไปเรียนที่ ADA Australasian Dance Association ได้
*** ที่มา : นิตยสาร Magz วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557
https://www.posttoday.com/ent/celeb/326711