รู้จักโยคะฟลายโบยบินสวยพลิ้วกลางอากาศ

รู้จักโยคะฟลายโบยบินสวยพลิ้วกลางอากาศ

โยคะฟลายคือหนึ่งในรูปแบบของการฝึกโยคะ ซึ่งเป็นศาสตร์เก่าแก่ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอินเดียซึ่งมีประวัติความเป็นมากว่า 5,000 ปี โดยความหมายของคำว่า “โยคะ” คือการหลอมรวมกันของร่างกายและจิตใจ ให้มีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา การฝึกโยคะจึงมีประโยชน์ช่วยให้ร่างกายและจิตใจมีความมั่นคงแข็งแรง สร้างรูปร่างให้มีสัดส่วนที่สวยงาม

โดยปัจจุบันโยคะได้มีการพัฒนาออกไปหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการออกกำลังกายบนผืนผ้าอย่าง “โยคะฟลาย” ที่ช่วยให้คุณได้โบยบินอย่างสวยงาม เป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายที่ไร้แรงกระแทก ช่วยเปิดกล้ามเนื้อให้มีความยืดหยุ่น ลดอาการปวดจากโรคออฟฟิศซินโดรม และยังช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดในร่างกายทำงานได้ดี ทำให้สุขภาพแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง

โยคะฟลายคืออะไร ทำไมต้องฟลาย?

เชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นรูปแบบการออกกำลังกายของโยคะฟลายแล้ว คงสงสัยกันว่าโยคะฟลายมีความแตกต่างจากโยคะแบบธรรมดาอย่างไร ซึ่งโยคะฟลายนั้นเป็นการออกกำลังกายประเภทที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อมอบความอิสระในการจัดท่วงท่า เพราะบนอากาศคุณจะสามารถยืดเหยียดร่างกายได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลรื่องการกดทับอยู่กับพื้น อีกทั้งยังใช้พลังงานเท่ากับการทำคาร์ดิโอหรือเวทเทรนนิงด้วย

นอกจากนี้การฝึกโยคะบนผืนผ้าที่แขวนอยู่บนความสูงเหนือพื้นดิน จะช่วยลดแรงกระแทกที่จะเกิดขึ้นกับหัวเข่า สะโพก หลัง และต้นคอ จึงไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บ และเมื่อผสมกับการหายใจอย่างถูกวิธีตามวิถีโยคะจะช่วยให้คุณมีสมาธิสามารถโฟกัสที่ร่างกายให้ขยับเคลื่อนไหวตามท่วงท่าต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

รูปแบบการฝึกโยคะบนผืนผ้านี้ใช้รูปแบบ Fusion Technique ที่นำเอาศาสตร์โยคะ (Yoga), พิลาทีส (Pilates), เต้นรำ (Dance) และศิลปะการลอยตัวกลางอากาศ (Aerial Art) มาผสมผสานเข้าด้วยกัน เพิ่มความสนุกสนานเพลิดเพลิน ลดความเครียดในการฝึก ให้ความรู้สึกไม่เหมือนออกกำลังกายอันน่าเหนื่อยหน่าย ผู้ฝึกจะรู้สึกเหมือนได้ออกมาเต้นรำร่วมกันกับเพื่อน ๆ มากกว่า

โยคะฟลายปลอดภัยหรือไม่ ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ และมือใหม่ฝึกได้หรือเปล่า?

เมื่อได้รู้จักกับโยคะฟลายกันไปแล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่า “ใครบ้างล่ะ ที่จะขึ้นไปอยู่บนผืนผ้านั้นได้อย่างปลอดภัย?” เพราะหากมองด้วยสายตาแล้วการลอยตัวบนอากาศโดยมีเพียงเปลผ้าอย่างเดียวก็ออกจะดูไม่ปลอดภัยไปสักหน่อย โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือหากต้องการฝึกจริง ๆ ต้องออกกำลังกายประเภทอื่นเพื่อให้รูปร่างเล็กลงก่อน จึงจะเริ่มฝึกโยคะชนิดนี้ได้ใช่ไหม สาว ๆ หรือ หนุ่ม ๆ ท่านใดที่คิดเช่นนี้ เรามาทำความเข้าใจกันใหม่ว่าการฝึกโยคะบนผืนผ้านี้มีความปลอดภัยอย่างไร และผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ ไปจนถึงผู้ที่ไม่เคยมีพื้นฐานโยคะมาก่อนฝึกได้หรือไม่ เพื่อการเริ่มต้นใหม่ที่มั่นใจและถูกต้องดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • ความปลอดภัย หนุ่มสาวเจ้าเนื้อคนไหนที่คิดว่านี่คือกีฬาของคนหุ่นดีเท่านั้น คุณกำลังเข้าใจผิด เพราะการออกกำลังกายประเภทนี้มีความปลอดภัยแม้คุณคือผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ เห็นเปลโยคะที่บอบบางและนุ่มนวลอย่างนั้น นั่นคือผ้าไหมทอพิเศษ หรือผ้าแฮมมอค (Hammock) ที่มีคุณสมบัติหนานุ่มและมีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 1,000 กิโลกรัม นำมาขึงด้วยเชือกอย่างแน่นหนา จนสามารถรองรับสรีระของผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะได้อย่างอ่อนโยนและปลอดภัย
  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก การออกกำลังกายประเภทนี้เหมาะกับผู้มีน้ำหนักตัวมาก เพราะการฝึกโยคะบนผืนผ้า ช่วยให้ร่างกายเป็นอิสระจากแรงดึงดูดของโลก ไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บตามร่างกายเนื่องจากแรงกระแทกจากการฝึกบนพื้น เพราะสภาพที่ไร้แรงกดและแรงกระแทกจะช่วยให้คุณเคลื่อนไหวไปบนผืนผ้าไหมได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับคุณอีกด้วย เพราะในขณะที่คุณกำลังเพลิดเพลินอยู่บนอากาศ ร่างกายของคุณจะเผาผลาญไขมันมาเป็นพลังงานจำนวนมหาศาล อีกทั้งระบบสูบฉีดโลหิตของหัวใจยังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณมีรูปร่างที่กระชับและได้สัดส่วน โดยปราศจากความเครียด
  • มือใหม่ไม่เคยฝึกโยคะมาก่อน สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีพื้นฐานการฝึกโยคะแบบดั้งเดิมมาก่อน ก็สามารถเริ่มต้นที่โยคะฟลายได้ทันที โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าท่วงท่าจะผิดหรือจะแตกต่างจากคนอื่น เพราะปัจจุบันคลาสเรียนโยคะจะแบ่งกลุ่มสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ให้ได้ฝึกร่วมกัน เริ่มต้นพร้อมกันอย่างถูกวิธี และไม่ต้องห่วงว่าจะต้องอยู่กับพื้นก่อน เพราะในครั้งแรกที่ฝึกคุณก็จะได้ขึ้นไปอยู่บนผืนผ้าทันที เมื่อคิดจะฟลายต้องได้ฟลายอย่างแน่นอน

การออกกำลังกายแบบโยคะฟลาย มอบอะไรให้แก่คุณบ้าง

โยคะฟลายคือการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับทุกเพศ ทุกวัย และการฝึกที่ถูกต้องภายใต้การดูแลของโรงเรียนและผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์ จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการฝึกมีผลที่น่าทึ่ง ทั้งจิตใจที่ผ่องใสสามารถโฟกัสกับงานได้มากขึ้น และสภาพร่างกายที่แข็งแรง มีไลน์กล้ามเนื้อที่สวยงาม โดยประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการฝึกโยคะประเภทนี้มีดังต่อไปนี้

  • บรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม สำหรับผู้ที่นั่งทำงานท่าเดิมเป็นเวลานาน จนเกิดอาการปวดบริเวณหลัง ไหล่ สะบัก และสะโพก คุณกำลังประสบกับโรคออฟฟิศซินโดรมซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงและนอนไม่หลับ การฝึกโยคะฟลายจะช่วยบำบัดและบรรเทาอาการเจ็บป่วยเหล่านี้ได้ เพราะเมื่อคุณอยู่บนผืนผ้ากล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลังทั้งหมดจะถูกคลายออกจากการขยับร่างกายตามท่วงท่าต่าง ๆ เมื่อกล้ามเนื้อที่แข็งรัดแน่นจนเป็นปมได้รับการคลายออก กระดูกสันหลังก็จะไร้แรงกดดันช่วยให้ผ่อนคลาย ผลที่ตามมาคือการนอนหลับที่มีคุณภาพ ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้เร็ว อาการปวดออฟฟิศซินโดรมจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
  • ชะลอวัย ผิวพรรณสดใส จริง ๆ แล้วการขึ้นไปอยู่บนผืนผ้าและขยับร่างกายไปตามท่วงท่า คุณต้องใช้พลังงานเพื่อแบกน้ำหนักตัวเองเยอะมากทีเดียว อีกทั้งการเต้นของหัวใจยังทำงานหนักไม่ต่างจากการทำคาร์ดิโอ แต่ด้วยสภาพไร้แรงกระแทก จะทำให้คุณไม่รู้ตัวว่าคุณได้เผาผลาญไขมันไปมากขนาดไหน เพราะอย่าลืมว่าคุณกำลังออกกำลังกายถึง 5 ชนิดในเวลาเดียวกัน และเมื่อไขมันร้ายในร่างกายถูกเผาผลาญไป หัวใจสูบฉีดเลือดนำออกซิเจนไปทั่วร่างกายได้ดี จะช่วยให้คุณมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง ใบหน้ามีสีเลือดฝาด แลดูอ่อนกว่าวัย จิตใจกลับมาสดใสกระปรี้กระเปร่าเหมือนได้รีสตาร์ทร่างกายใหม่ทั้งระบบ
  • บรรเทาอาการปวดต่าง ๆ นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดจากโรคออฟฟิศซินโดรมแล้ว การออกกำลังกายชนิดนี้ยังช่วยบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ให้ทุเลาลงได้ เช่น อาการปวดประจำเดือน อาการปวดเมื่อยเนื่องจากทำงานเกี่ยวกับการยกของหนักเป็นประจำ และอาการปวดไมเกรน ที่สำคัญการฝึกโยคะฟลายเฉลี่ย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ยังช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้ามีอาการที่ดีขึ้นด้วย เพราะสมองได้รับการผ่อนคลาย อีกทั้งเลือดยังนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับได้ลึกและสบายขึ้น ส่งผลให้อาการซึมเศร้าบรรเทาลงและสนองตอบกับยาที่รับประทานได้ดี

โยคะฟลายคือรูปแบบการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังช่วยเยียวยาอาการเจ็บป่วยบางชนิดให้ทุเลาลง เป็นกีฬาที่เหมาะสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะมีน้ำหนักตัวมากเกินไปหรือน้อยเกินไป จะเป็นมือใหม่หรือมือเก่า ขอเพียงคุณมีเป้าหมายและมีความมั่นใจว่าร่างกายของคุณสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ คุณคือผู้ที่เหมาะกับกีฬาประเภทนี้ และที่สำคัญหากคุณมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย ส่วนสตรีมีครรภ์ยังไม่ควรฝึกกีฬาประเภทนี้ และสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่าตัดมาและแพทย์อนุญาตให้ทำการบำบัดด้วยกีฬาชนิดนี้ได้ ต้องแจ้งครูผู้ฝึกให้ทราบก่อนทุกครั้ง

Leave a Reply