DANCE CLASS

การเต้น สามารถเริ่มเรียนได้ตั้งแต่เด็ก เริ่มที่อายุ 3 ปีขึ้นไปจนถึงผู้ใหญ่ หรือผู้ใหญ่วัยเกษียณ ก็สามารถเริ่มเรียนได้ โดยไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย ไม่จำกัดอายุหรือน้ำหนัก โดยผู้เรียนจะได้รู้จักการเต้นในหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น แจ๊สแดนซ์ (Jazz Dance), สตรีทแดนซ์ (Street Dance), บรอดเวย์แจ๊ส (Broadway Jazz), ลาติน (Latin), ฮิพฮอพ (Hiphop), ฟั๊งกี้ (Funky), คอนเทมโพรารี่แดนซ์ (Contemporary Dance), ซุมบ้า (Zumba), ระบำสเปน (Spanish Dance), เต้นออกกำลังกาย (Workout dance) และอื่นๆอีกมากมาย

โดยที่โรงเรียนสอนเต้น ผู้เรียนจะได้ฝึกเต้นตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงการเต้นด้วยเทคนิคขั้นสูงที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ด้วยสไตล์ที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ผู้ที่เรียนจะได้เรียนรู้คำศัพท์ต่างๆของการเต้นอีกด้วย และสำหรับผู้เรียนที่มีความสนใจ ในการสอบวัดระดับมาตรฐานการเต้นของตนเอง หรือสอบเพื่อนำไปใช้ประกอบอาชีพในอนาคต หรือเป็นครูสอนเต้น ทางสตูดิโอก็จะมีการจัดสอบเพื่อวัดระดับมาตรฐานการเต้น โดยสถาบัน Australasian Dance Association (ADA) ของประเทศออสเตรเลียอีกด้วย

การเต้นซุมบ้า เป็นการเต้นออกกำลังกายแบบผสมผสานในจังหวะ ลาติน โดยรวมการเต้น 4 แบบไว้ด้วยกัน ได้แก่ การเต้นแอโรบิกฮิพฮอพ ลาติน และระบำหน้าท้อง ซึ่งทำให้ผู้เต้นซุมบ้ารู้สึกสนุกสนานไปกับดนตรีที่เร้าใจแบบลาติน การเต้นซุมบ้าเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ต้องขยับร่างกายอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะช่วงหน้าท้องและสะโพก ซึ่งช่วยเผาผลาญแคลลอรีและลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ท่าเต้นซุมบ้าเป็นท่าเต้นเสต็ปง่ายๆที่ใครๆก็เต้นตามได้อย่างลงตัว

การเต้นบอลรูม หรือที่รู้จักกันว่าลีลาศ เป็นการเต้นรำคู่กันระหว่างชายหญิงด้วยท่วงท่าที่สง่างามและอ่อนช้อย มีทั้งจังหวะเร็วและจังหวะช้า เช่น วอลทช์ (Waltz), แทงโก้ (Tango), ฟอกซ์ทรอท (Fox Trot), ควิกสเตป (Quick Step), ควิกวอลทซ์ (Quick Waltz) เป็นต้น การเต้นลีลาศเป็นการเต้นรำที่สนุกสนาน โดยจะใช้ช่วงตัว เอว สะโพก และข้อเท้าเป็นหลักในการเต้น ลำตัวของผู้เต้นลีลาศจะตั้งตรง อกผาย ดูสง่างามขณะลากเท้าไปกับพื้นตามสเต็ปของดนตรี สามารถเรียนได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเต้นเป็นคู่ หรือเหมาะสำหรับคู่รักที่อยากหากิจกรรมทำร่วมกัน เป็นต้น

เรียกได้ว่าใครที่อยากเต้นปลดปล่อยพลังต้องเรียน “Street Dance” เพราะเป็นการเต้นที่สามารถคิดค้นท่าใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการนำท่าจากกีฬายิมนาสติกมาใช้ เช่น ท่าตีลังกา ฉีกขา กังหัน เป็นต้น บีทเพลงที่การเต้น Street Dance นำมาใช้จะเป็นเพลงจังหวะเร็ว แม้ไม่หนักและรัวเท่าฮิปฮอปแต่ก็เป็นบีทที่มีความถี่ เน้นไปทางสนุกสนานครื้นเครง สามารถให้ผู้เต้นปลดปล่อยร่างกายไปกับลีลาการเต้นได้อย่างเต็มเปี่ยม วัยรุ่นในอเมริกานิยมเต้นประเภทนี้กันมาก เนื่องจากไม่ยากจนเกินไป อีกทั้งยังสามารถเต้นได้ทั้งแบบกลุ่มและเดี่ยว สามารถเริ่มต้นได้ทั้งยังเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่

การเต้นแบบ “Hip Hop Dance” ถูกออกแบบมาให้เพื่อเต้นเข้าจังหวะกับแนวสไตล์เพลง Hip Hop ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งดนตรีแนว “ฮิปฮอป” จะเน้นการใส่บีทจังหวะหนัก ๆ ที่เน้นเสียงกลอง อิเล็กทรอนิกส์ และเบสเป็นส่วนใหญ่ เพลงจึงมีจังหวะเร็วไปจนถึงเร็วมาก ต้องอาศัยการเต้นที่มีการโยกตัว กระทืบเท้า กระโดด ให้ไปกับเสียงจังหวะในเพลง อีกทั้งยังมีการใส่ลีลาที่เรามักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เช่น การเลียนแบบหุ่นยนต์ ท่ากระตุกตามส่วนต่าง ๆ ของร่ายกาย หรือการเลียนท่าทางการแสดงออกในชีวิตประจำวัน เป็นต้น ผู้ที่เรียนประเภทนี้จึงต้องเน้นการออกท่าที่แข็งแรงและชัดเจน เพื่อให้การเต้นออกมาสวยงามหนักแน่นตรงกับสไตล์ของเพลง